Homepage Auto Racing Car Gallery Article Community Service Links
ทุกภาพสามารถคลิกเพื่อดูภาพ
ใหญ่ในกลุ่มนั้นทั้งหมดได้
Mitsubishi GTO version 2000
19 พ.ย. 2543  




















     รถยนต์ประเภทสปอร์ตญี่ปุ่นที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากค่าย Mitsubishi ที่เห็นๆกัน
อยู่ในบ้านเราก็มีตระกูล Evolution ที่มีความนิยมกันอยู่เป็นอย่างมากตั้งแต่รุ่นแรกๆ
จนปัจจุบันปาเข้าไปโฉมที่ VII กันแล้ว แต่ถ้าหากเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่านี้ก็ต้องเป็น 3000
GT หรืออีกชื่อคือ GTO ซึ่งในบ้านเราไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ทางเมืองนอกแถบ
อเมริกานั้นพบเห็นกันได้ไม่ยากเหมือนบ้านเรา GTO นั้นเท่าที่ผมจำได้นั้นมีอายุนาน
พอควรตั้งแต่รุ่นไฟป็อปอัพตอนนั้นเขายังไม่เรียกว่า GTO กันเลยมั้งแต่ก่อนเขาเรียก
ว่า 3000 GT (ประมาณปี '91) มาจนราวๆปี '95 หรือ '96 นั้นแหละก็ได้เปลี่ยนมา
เป็นไฟหน้าแบบฝังติดเปลี่ยนฝากระโปรงใหม่และก็ได้เรียกกันอย่างเต็มปากว่า GTO
และนายแบบของเรานั้นเป็น GTO ปี '97 แต่ทางเจ้าของรถนั้นได้ทำการปะแป้งแต่ง
กายเจ้า GTO กันซะใหม่เป็นแบบโฉมล่าสุดเลยล่ะเป็นคันแรกของบ้านเราเลยก็ว่าได้

ภายนอก
     เด่นมาแต่ไกลด้วยสีแดง และเนื่องจากเจ้า GTO คันนี้เป็น Version เก่าทางผู้
ครอบครองจึงมีความคิดที่อยากจะทำ GTO คันเก่งให้ใหม่กว่าเดิมก็เลยใช้วิธีการสั่ง
ชุด Aeropart GTO version 2000 ที่เป็นชุดแรกที่สั่งเข้ามาในบ้านเรามาใส่
แทนของเดิมทำให้ GTO คันเก่งกลายเป็นโฉมใหม่ไปโดยปริยาย ชุดสปอยเลอร์หลัง
ขนาดใหญ่กว่าเดิมที่สร้างแรงกดท้ายยามใช้ความเร็วสูงได้เป็นอย่างดีและยังสวยงาม
ดูโหดอีกด้วยต่างจากตัวเก่าที่เป็นแบบโค้งเตี้ยธรรมดา ทางด้านไฟหน้าใน Version
2000 ไฟเลี้ยวกับไฟหน้าจะเป็นชิ้นเรียบติดกันเป็นชิ้นเดียวต่างกับรุ่นเก่าไฟหน้ากับ
เลี้ยวจะแยกชิ้น ตัวกันชนหน้าต้องเปลี่ยนใหม่ให้รับกับไฟหน้าและไฟเลี้ยวที่ต้องเข้ารูป
กันและทางด้านเสาหลังคาจะเป็นแบบทึบไปเลยต่างจากรุ่นเก่าที่จะมีเสาเล็กและมีกระ-
จกบานเล็กๆ ติดกับเสา มาถึงไฟท้ายใน Version 2000 นี้ แผงทับทิมตรงกลางจะ
ไม่มีจะเป็นแผ่นครีบสีดำแทน ภายนอกทั้งหมดของ GTO คันนี้เปลี่ยนเป็น Version
2000 ทุกชิ้นจึงไม่แปลกที่เจ้า GTO คันนี้จะแปลกและสวยงามกว่า GTO ทั่วๆไป
ในบ้านเรา

ช่วงล่าง-ล้อ-ยาง-ระบบส่งกำลัง
     GTO คันนี้เลือกใช้ชุดช็อคทั้งหมดเป็นของ BOZZ SPEED รุ่น Racing ที่
สามารถปรับได้ 5 ระดับตามความต้องการกับสภาพการใช้งานแถมยังมี Ball joint
อีกด้วยทำให้สามารถปรับแต่งมุมล้อที่วันใดอยากใส่ล้อใหญ่ก็ใส่ได้ไม่ยาก มาถึงล้อรถ
GTO เป็นรถที่มีรูปทรงค่อนข้างใหญ่เพราะฉนั้นล้อจึงต้องใหญ่ตามด้วยคันนี้เลือกที่
จะใช้ล้อ ENKAI ขอบ 18" ล้อหน้ากว้าง 8.5" ล้อหลังกว้าง 9.5" กับยางเนื้อคู่ในล้อ
คู่หน้าใช้ DUNLOP SP9000 245/40/18 และล้อคู่หลังก็ DUNLOP SP
9000 475/35/18 แค่เพียงล้อ+ยางชุดดังกล่าวก็ทำให้ GTO คันนี้สวยเกาะ (ถนน)
ขึ้นเป็นกองแล้ว และในเมื่อเป็นรถสปอร์ตขนาดใหญ่ต้องเป็นรถที่มีแรงม้าสูงและทำ
ความเร็วได้สูงเรื่องระบบเบรกจึงจำเป็นแต่ระบบเบรกเดิมๆ ที่ได้มากับรถนั้นไม่เป็นที่
พอใจของเจ้าของมากนักดังนั้นเจ้าของจึงกระชากชุดเบรกหน้าเดิมออกแล้วหันไปคบ
กับชุดเบรก BREMBO 4 POT ส่วนด้านหลังยังคงใช้เบรคเดิมแต่จะรูที่จานเบรค
และเปลี่ยนผ้าเบรคมาใช้ ENDLESS CCM เพียงแค่นี้ก็ควบคุมแรงม้าที่มีอยู่มาก
ได้เป็นอย่างดี เกียร์แบบ 6 Speed เดิมๆ แต่ Flywheel ทำจาก Chromoly
น้ำหนักเบาและยังแข็งแรงอีกด้วย ชุดคลัชเปลี่ยนมาใช้ของ BOZZ SPEED ทั้งชุด
ทำให้เรื่องแรงม้าที่มีอยู่ออกมาใช้ไม่หมดเป็นไปไม่ได้แน่










เครื่องยนต์
     เครื่องยนต์ของ GTO คันนี้ได้ทำการปรับปรุงนิดหน่อยตัวเครื่องยนต์ยังเป็น
เครื่องยนต์ V6 สูบ รหัส 6G72 3000 CC. เจ้าของบอกว่าไม่อยากทำอะไรมากกับ
เครื่องตัวนี้เพราะได้สั่งเครื่อง GTO ตัวแข่งจากญี่ปุ่นไว้แล้ว กำลังจะมาถึงเมืองไทย
สำหรับเครื่องยนต์ตัวที่ใช้อยู่ได้ทำการเปลี่ยนกล่อง ECU เป็นของ TEST &
SERVICE เปลี่ยน Intercooler ของ Garrett และได้ทำการฝังหัวฉีดเสริมอีก 2
หัว โดยใช้หัวฉีดของเครื่อง RB26 ใช้ REBIC III เป็นตัวควบคุมหัวฉีดเสริมและ
ติดตั้ง Regulator ของ SARD เข้าไปเพื่อควบแรงดันเชื้อเพลิงได้ตามต้องการ
และตัว Blow off valve เปลี่ยนมาใช้ของ HKS รุ่น Racing ทางด้านปั้มน้ำมัน
เชื้อเพลิงเพิ่มปั้ม BOSCH ไปอีกหนี่งตัว หัวเทียนใช้ของ NGK เบอร์ 8 สายหัว-
เทียนเป็นของ R-SPEC กรองอากาศใช้กรองเปลือย BLITZ แบบตาข่ายอลูมิเนียม
ท่อทางเดินไอดีทั้งหมดเป็นอลูมิเนียมดัดทรายทั้งหมดและยังติดตั้งตัววัดแรงดัน
น้ำมันเบนซินของ Autometer ไว้อีกด้วย และยังได้เพิ่มตัว Oilcooler เป็นของ
EARL'S เข้าไปอีกด้วย ภายในห้องเครื่องสายแรงดันต่างๆ ที่สำคัญๆ ได้ถูกเปลี่ยน
เป็นสายอลูมิเนียมถักของ EARL'S ทั้งหมด เรียกได้ว่าเงาจนแสบตาเมื่อเปิดฝากระ-
โปรงออกมา ท่อทางเดินไอเสียเป็นของ BOZZ SPEED ทั้งเส้น และยังได้พัน
ฉนวนกันความร้อนที่ท่อไอเสียไว้ทั้งเส้นเช่นกัน ความเร็วตีนปลายเจ้าของบอกเคยขับ
ได้ 270 กว่าๆ กม./ชม. โดยไม่ส่งผลกับปัญหาเรื่องความร้อนแต่ประการใด










ภายใน
     ตัวหน้าปัดคอลโซลและเรือนไมล์เปลี่ยนเป็นของ Option ญี่ปุ่นทั้งหมด ตัวไมล์
บอกความเร็วได้ถึง 290 กม./ชม. และได้ติดตั้งบรรดามาตรวัดต่างๆ เพิ่มเติมเข้าไป
อีก 6 ตัวก็มีวัด Boost (แรงดัน Turbo), Ext. (อุณหภูมิท่อไอเสีย), Rpm. (รอบ
เครื่องยนต์), Watertemp(อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น), Oiltemp(อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง),
Oilpress (แรงดันน้ำมันเครื่อง) โดยทั้ง 6 ตัวนี้เป็นของ DEFI ทั้งหมดและตรง
คอลโซลกลางติดตั้งปรับบูสต์ไฟฟ้า AVC-R จอฟ้าของ A'PEXI และ Turbo
Timer + Rebic III ของ GReddy ตรงมุมหลังคาติดตั้ง REV SPEED ของ
A'PEXI ในมุมที่ผิดแปลกไปกว่าชาวบ้าน พวงมาลัยเปลี่ยนเป็นของ MOMO รุ่น
Tornado จับถนัดกระชับมือเวลาขับและในวงพวงมาลัยยังติด Remote ควบคุม
วิทยุ Blaupunkt ซึ่งวิทยุตัวนี้สามารถใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ระบบ GSM ได้เมื่อมีคน
โทรเข้ามาเสียงวิทยุที่ใช้งานอยู่จะเบาลงและเสียงคนโทรเข้ามา จะออกมาทางลำโพง
และยังสามารถพูดตอบโต้ออกมาได้เลย เพราะมีไมโครโฟนซึ่งซ่อนไว้ที่มุมเสาอะไรจะ
ไฮเทคขนาดน้านเรียกได้ว่า สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องไฮเทคด้วยจริงม๊ะ
     เป็นยังไงกันบ้างครับการแปลงโฉมเจ้า GTO โฉมเก่ามาเป็นโฉมใหม่ Version
2000 สวยไม่เบาเลยใช่ไหมครับนี่เป็นการแต่งแบบรอของน่ะครับไอ้รอของที่ว่านี้ก็
คือว่าทางเจ้าของได้สั่งเครื่องยนต์ที่ได้ทำการโมดิฟายด์ทั้งตัวจากสำนัก TEST &
SERVICE Japan ที่สั่งทำสำหรับคันนี้โดยเฉพาะและยังมาพร้อมกับบรรดาเกียร์
กับช่วงล่างอีกด้วยอีกไม่นานเกินรอเจ้าเครื่องยนต์และช่วงล่างดังกล่าวคงจะได้มาแผง
อยู่ใน GTO คันนี้ครับเห็นแว่วๆ ว่าปลายปีนี้ไม่ก็ต้นๆ ปีหน้ามาแน่นอนครับ อย่างนี้เจ้า
GTO version 2000 คันนี้คงจะเป็น GTO ที่มีความน่ากลัวอยู่แถวหน้าบรรดารถ
แรงบ้านเราเป็นแน่

Gallery this car ==> Exterior : ภายนอก | Engine : เครื่องยนต์ | Interior : ภายใน